อุดมการณ์ หลักการ และวิธีการ ปฏิบัติศาสนกิจ
พระพรหมวชิรญาณ เป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ได้อุทิศกายใจปฏิบัติศาสนกิจ ทุกภูมิภาค ทั้งในชนบทที่ด้อยพัฒนาและห่างไกล ในประเทศไทย ตลอดถึงในต่างประเทศที่แปลกต่างจากมาตุภูมิ ทั้งในด้านสภาพดินฟ้าอากาศ อาหาร บุคคล ทัศนคติและวัฒนธรรมประเพณี ย่อมจะประสบกับอุปสรรคปัญหานานาประการ ซึ่ง พระพรหมวชิรญาณ ได้ตระหนักในพระบรมพุทโธวาทของพระพุทธองค์ จึงสามารถปฏิบัติศาสนกิจต่างๆบรรลุผลสำเร็จตลอดมา คือ
- ยึดอุดมการณ์ทำงานด้วยความอดทนไม่ท้อแท้ มองการเผยแผ่พระพุทธศาสนาว่า พระนิพพานเป็นสำคัญยอดยิ่ง และทำงานโดยไม่คิดร้ายพูดร้ายเบียดเบียนทำร้ายใคร
- ยึดหลักการทำงานโดยไม่ทำความชั่วทุกชนิดทำความดีให้บริบูรณ์และทำจิตใจให้ผ่องใส
- ยึดวิธีการปฏิบัติศาสนกิจ โดยไม่กล่าวร้ายใคร ไม่ฆ่าไม่เบียดเบียนใคร สำรวมในปาติ โมกข์หรือพระธรรมวินัย รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร ยินดีในที่นอนที่นั่งอันสงัด และเพียรอบรมจิตให้ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย
ซึ่งด้วยอุดมการณ์ หลักการและวิธีการปฏิบัติศาสนกิจ ของพระพุทธองค์ดังกล่าวนี้เอง ทำให้พระเดชพระคุณเป็นพระเถระที่มีความอดทนและเสียสละ ไม่ติดในลาภสักการะหรือความสุขความสะดวกสบายใดๆ มีเป้าหมายเพื่อตอบแทนอุปการคุณของพุทธศาสนิกชนผู้อุปถัมภ์บำรุง และเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาพระคุณพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมอนุเคราะห์และพัฒนาชีวิตจิตใจประชาชนให้ยึดมั่นในทานศีลภาวนาหรือศีลสมาธิและปัญญาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้า เพราะถ้ามนุษย์เราชำระชีวิตจิตใจให้หลุดพ้นจากอำนาจครอบงำของกิเลสความโลภความโกรธและความหลงแล้ว ชีวิตจิตใจย่อมจะเป็นอิส
สระจากความชั่วและทุกข์ภัยทั้งปวง สังคมย่อมจะร่มเย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน
ส่วนการปฏิบัติศาสนกิจในต่างแดนนั้น แม้พระเดชพระคุณจะดำรงตำแหน่งหลายตำแหน่ง เช่น เป็นประธานโครงการก่อสร้าง และเป็นเจ้าอา
วาสวัดธัมมาราม นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา, เป็นประธานโครงการสร้าง และเป็นเจ้าอาวาสวัดในเครือสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ รูปแรก, เป็นประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ๖ สมัย เริ่มแต่ปี ๒๕๒๐-๒๕๓๐ อันเป็นระยะบุกเบิกเริ่มต้นนั้น
แต่ด้วยพุทธบารมี ท่านก็สามารถดำเนินศาสนกิจนั้นๆโดยใช้เมตตาและปัญญามาเป็นแนวปฏิบัตินำวัดที่ท่านเป็นประธานโครงการสร้างตลอดถึงวัดในเครือสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐฯ (ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน ๖๐ กว่าวัด) ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ ตามอุดมการณหลักการและวิธีการ ของพระพุทธองค์ ได้ประทานไว้ดังกล่าว เพื่อประโยชน์เกื้อกูลและสันติสุข ต่อสาธุชนสมาชิกวัด ตลอดถึงต่อประเทศ
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดและเป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์และบรรดาสมาชิกวัดด้วย
ในระหว่างที่ท่านปฏิบัติศาสนกิจอยู่ในสหรัฐอเมริกา ท่านถือหลักว่า “สุขทุกข์ของมนุษยชาติย่อมเนื่องถึงกัน” จึงได้วางนโยบาย ให้พระสงฆ์และวัดในเครือสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ได้แสดงออกถึงเมตตากรุณาธรรม ทั้งด้วยวัตถุและด้วยธรรมะต่อเพื่อนมนุษย์ในสหรัฐอเมริกา โดยไม่จำกัดชาติชั้นวรรณะและลัทธิศาสนาใดๆ ตลอดถึงเพื่อนร่วมโลกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อสร้างสรรค์จรรโลงสันติสุขและสันติภาพ ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในสังคมโลก เป็นเหตุให้พระสงฆ์และวัดที่ท่านเป็นประธานโครงการสร้าง ตลอดถึงวัดในเครือสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐ อเมริกาทุกวัด ได้มีบทบาทเข้าไปมีส่วนสนับสนุนสงเคราะห์ต่อชุมชน สมาคมชมรมและองค์กรนานา ชาตินานาศาสนาในสหรัฐอเมริกา ตลอดถึงในประเทศต่างๆ ที่ท่านเดินทางไปถึงด้วย อันเป็นภาพ ลักษณ์แสดงถึงบทบาทพระสงฆ์ไทยในพระพุทธศาสนา แม้จะไม่ติดในเรื่องโลกก็ไม่ทอดทิ้งประชาชนและชาวโลก แต่ยังมุ่งสงเคราะห์อนุเคราะห์ต่อชุมชนและชาวโลก ตามหลักธรรมคำสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดมา นอกจากนั้น พระพรหมวชิรญาณ ได้พยายามหาทางประสานศาสนิกสัมพันธ์ กับองค์กรและนักศาสนาต่างๆ ด้วยวิธีสมานฉันท์ โดยเสนอหลักการที่ว่า
“ถ้าบรรดานักศาสนาทั้งหลาย ยังหันหลังให้กัน ยังแทงกันข้างหลังกัน หรือยังเป็นศัตรูกันแล้ว เราจะยังสันติสุขสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ชาวโลกได้อย่างไร และชาวโลกจะอยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างไร? ฉะนั้น บรรดานักศาสนาทั้งหลาย ควรจะหาแนวทางนำหลัก “เมตตาธรรม” ซึ่งมีอยู่ในทุกศาสนา มาร่วมกันปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำสันติสุขและสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ศาสนิกชนในนามมวลมนุษยชาติได้อย่างไรด้วย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น